วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2554

A-2อาหาร 12 ชนิด ช่วยชะลอความแก่



อาหาร 12 ชนิด ช่วยชะลอความแก่

การ รับ ประทานอาหารที่ถูกหลักอนามัยก็จะช่วยทำให้สุขภาพดี และยังช่วยปัดเป่าจากโรคภัยอันเกี่ยวกับความแก่ได้อีกด้วย เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง และอัลไซม์เมอร์ ฉะนั้นเราหันมาสะสมอาหารเพื่อชะลอความแก่กันเถอะ เรามาดูกันว่ามีอาหารอะไรบ้าง ที่ช่วยชะลอความแก่

1.น้ำมันมะกอกเวอร์จินหรือน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์
เป็นส่วนหนึ่งในการปรุงอาหาร เช่นใส่ในน้ำสลัดเล็ก น้อย หรือผัดผัก ประโยชน์ของน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ช่วยบรรเทาอาการโรคไขข้อได้
2.ขนมปังโฮลวีต
การรับประทานขนมปังโฮลวีต 3 แผ่นต่อวัน สามารถลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็ง โรคหัวใจ และเบาหวานชนิด 2 ลงไปได้ 3 เท่า
3.ส้ม
เป็น ผลไม้ที่รับประทานง่าย เพราะเรารู้ว่าในส้มมีวิตามินซี และวิตามินซีนี้ จัดว่าดีต่อการสร้างคอลลาเจนใหม่ในผิว จึงทำให้ผิวแน่น และอิ่มเอิบ ทางออสเตรเลียได้ค้นคว้าและพบว่า ส้มมีไฟโตเคมิเคิลต่างๆรวมกว่า 170 อย่าง ส้มจึงมีประโยชน์ช่วยป้องกันการอักเสบ ต่อสู้กับโรคมะเร็ง และยังสามารถป้องกันโรคโลหิตอุดตันอีกด้วย
4.ถั่วแดง เป็น อาหารที่ดีที่สุดสำหรับต้านความแก่ เพราะในถั่วแดงมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ และมีโปรตีนช่วยช่อมแซมร่างกาย มีธาตุเหล็กช่วยในการกระตุ้นพลังงาน วิตามินบี และแมกนีเซียม กากใยยังช่วยลดคอเลสเตอรอลด้วย
5.เมล็ดทานตะวัน
เต็ม ไปด้วยกรดไขมันปกป้องผิวไม่แห้งหยาบกร้าน ทำให้สุขภาพผิวดี ในเมล็ดทานตะวันยังมีสังกะสีที่ช่วยเยียวยาบาดแผล โปรตีนช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน และวิตามินอี
6.ปลาแซลมอน
เต็ม ไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ปลาแซลมอนยังดีกับผิวพรรณ และยังช่วยปกป้องผิว และเนื้อเยื่อภายใต้ผิวต่อการทำลายจากแสงแดด แต่ยังไงก็ต้องใช้ครีมกันแดดด้วยนะ


7.ผักขม
มีธาตุเหล็ก แอนตี้ออกซิแดนท์ และเซซานตินช่วยต่อสู้กับอาการสายตาที่แย่ลง และมักจะเกิดกับผู้สูงอายุ
8.ขมิ้น
เป็น ผงสีเหลืองที่ใส่ในแกงกะหรี่ ในขมิ้นมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยป้องกันของโรคอัลไซม์เมอร์ เพราะฉะนั้นเลี่ยงกะทิมันๆ และเลือกผักที่เต็มไปด้วยออกซิแดนท์ ถั่ว และแกงกะหรี่ซีฟู้ดแทน
9.อโว คาโด
เต็มไปด้วยวิตามินอี และกลูทาไธวัน อโวคาโดยังมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ต้านความแก่ที่ดี ที่สุดอีก นอกจากนี้ยังมีวิตามินบี 6 และวิตามินซี กับแร่ธาตุแมกนีเซียมซึ่งช่วยในการสร้างฮอรโมน ความสุขเซโรโทนินและโดพามีน เพราะฉะนั้นถ้าเรารับประทานอโวคาโดเป็นประจำ ก็จะส่งผลต้านความชราอย่างสูงสุด
10.แครอท
เรารู้กันอยู่แล้วว่าในแครอทมีสารเบต้าแคโรทีน และแอนตี้ออกซิแดนท์ นอกจากนี้ยังพบว่าถ้ารับประทานแครอทเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็ง และยังมีสุขภาพของดวงตาที่ดีอีกด้วย
11.บลูเบอร์รี่
เป็นผลไม้ที่มีพลังแอนตี้ออกซิแดนท์มากกว่าผลไม้อื่นๆ และบลูเบอร์รี่ยังช่วยการประสานงานในร่างกายของเราเมื่อแก่ตัวลง เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์อีกหนึ่งชนิด อย่าได้ลืมรับประทานเชียวนะ
12.แอปเปิ้ล
มีสารเกอซิตินซึ่งเป็นแอนตี้แดนท์ต้านการอักเสบ และยังช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่อยู่ในร่างกาย ถ้าเรารับประทานแอปเปิ้ลเป็นประจำจะช่วยให้ปอดแข็งแรง และลดความเสี่ยงของโรคหอบหืดอีกด้วย

A-1สยบ 'ภูมิแพ้' ด้วยอาหาร

สยบ 'ภูมิแพ้' ด้วยอาหาร

โรคภูมิแพ้เป็นโรคประจำตัวอันดับต้นๆ ของคนเมือง ที่ชีวิตพัวพันอยู่กับฝุ่นละอองจากควันรถยนต์ โดยเฉพาะในเด็กและวัยรุ่นมีผู้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสาเหตุของการเกิดโรคก็มีทั้งมาจากมลพิษในอากาศและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยน แปลงไป การขาดการออกกำลังกาย กรรมพันธุ์ อาหารที่รับประทานเข้าไป แต่ถ้าเรารู้จักเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และเหมาะสม จากสาเหตุของการเกิดโรค ก็อาจเปลี่ยนเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยป้องกันการเกิดอาการภูมิแพ้ได้เช่นกัน


การ ทานอาหารสำหรับคนเป็นภูมิแพ้ถือว่าไม่ยุ่งยากเหมือนกับวิถีการกินของ ผู้ป่วยที่เป็นโรคอื่นๆ โดยผู้ที่เป็นภูมิแพ้อาจต้องเลือกรับประทานอาหารที่ต้องคำนึงถึงฤทธิ์ร้อน และฤทธิ์เย็น เพราะถ้าร่างกายของเราไม่มีความสมดุล มีภาวะร้อนเกินหรือเย็นเกิน ร่างกายจะแสดงอาการป่วยและภาวะของโรคต่างๆ ออกมา


เมืองไทยเป็นประเทศเมืองร้อน คนส่วนใหญ่จะมีร่างกายในเชิงฤทธิ์ร้อนมากกว่าชาวตะวันตก ดังนั้นควรเลือกรับประทานประเภทฤทธิ์เย็น เช่น การทานผักผลไม้ สมุนไพร หรือน้ำพริก แต่ทว่าในปัจจุบันหลายๆ คนมักทานอาหารเลียนแบบชาวตะวันตก ชนิดที่ว่าเน้นเนื้อนมไข่ จำพวกแฮมเบอร์เกอร์ มันฝรั่งทอด ขนมเค้ก


ซึ่งอาหารพวกนี้มีน้ำตาล และ ไขมันสูง ส่งผลให้ร่างกายเพิ่มความเป็นฤทธิ์ร้อนมากขึ้น โดยจะมีอาการที่แสดงออกทางรางกายจากภาวะเสียสมดุลเพราะมีความเป็นฤทธิ์ร้อน มากเกินไป เช่น หน้าแดง ตาขาวเริ่มมีสีแดง อุณหภูมิในร่างกายสูง และด้วยอาการดังกล่าวก็ส่งผลให้โอกาสที่จะเกิดผื่นคัน ภูมิแพ้ก็มีสูง


ทั้งนี้โรคภูมิแพ้ซึ่งเป็นโรคซึ่งเกิดจากสภาวะร้อนภายในร่างกายมาก และเกิดการสะสมมานาน ผู้ป่วยจึงควรเร่งปรับสมดุลให้ร่างกายด้วยการรับประทานอาหารฤทธิ์เย็นอย่าง สม่ำเสมอและต่อเนื่อง พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงอาหารดังนี้คือ

อย่าได้แตะถ้าเป็นภูมิแพ้
- หลีกเลี่ยงอาหารในกลุ่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์จากนม เช่น เค้ก เบเกอรี่ ไอศกรีม ช็อกโกแลต
- หลีกเลี่ยงสารเคมีปรุงแต่งอาหาร และสารปนเปื้อน เช่น ฟอร์มาลินในอาหารทะเล สีสังเคราะห์ สารกันบูด ผงชูรส ยาฆ่าแมลง
- เลือกรับประทานผัก และผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ(Antioxidant) หรือยาธรรมชาติ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคหวัด ภูมิแพ้ ติดเชื้อง่าย
- เลือกรับประทานอาหารที่ใช้น้ำมันไม่ผ่านความร้อน
- ใช้เครื่องปรุงธรรมชาติ เช่น ซีอิ๊วหมักธรรมชาติ,มิโซะ, เต้าเจี้ยว, บ๊วยดอง, ขิง เป็นต้น


เมนูแนะนำเพื่อสู้ภูมิแพ้
เช้า สลัดไก่และน้ำมันมะกอก ซุปฟักทองราดน้ำมันงา ข้าวโพดต้ม 1 ฟัก น้ำมะพร้าวพร้อมเนื้อ
กลางวัน ข้าวกล้องโรยงาดำ ปลาแซลมอลนึ่งพร้อมผักออร์แกนิกและน้ำจิ้มแจ่วน้ำส้มหรือน้ำฝรั่งคั้นสด กล้วยน้ำว้า 2 ลูก
เย็น
ข้าวกล้อง แกงส้มปลาช่อน ยำใหญ่ใส่สารพัด น้ำถั่วเขียวต้มใส่ขิง เพื่อเพิ่มความร้อนให้แก่ร่างกายในฤดูหนาว
เมนูเสริม ต้มยำไก่บ้าน ปอเปี๊ยสดใส่กุ้ง แหนมเนือง โซบะน้ำใส่มิโซะหมู

13-บันทึกกอ้นกรวด-2554


ของถูกก็ดีได้ ... ของที่หาง่ายก็ใช่จะไร้ค่า ... ขุมทรัพย์ไม่จำเป็นต้องอยู่สุดขอบฟ้า ... แต่อาจดารดาษใกล้ ๆ ตัวเรา

ใน สมัยโบราณ มีชนเผ่าหนึ่งเที่ยวเร่ร่อนไปในที่ต่างๆ ค่ำไหนนอนนั่น โดยจะปลูกกระโจมอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ทุกคืนก่อนนอน พวกเขาจะสวดมนต์อ้อนวอน ขอโชคลาภจากเทพเจ้าอยู่เสมอ

คืนหนึ่ง! ขณะที่พวกเขากำลังบูชาเทพเจ้าอยู่นั้น ได้เกิดลมพัดอื้ออึง ฟ้าแลบแปลบปลาบ พวกเขาต่างคิดว่า เหตุอัศจรรย์กำลังจะบังเกิดขึ้น ทันใดนั้นเอง! พวกเขาก็ได้ยินเสียงดังก้องมากจากท้องฟ้าเบื้องบนว่า...

"พวกเจ้า ทั้งหลายจงฟังข้า ในวันพรุ่งนี้ ไม่ว่าพวกเจ้าจะเดินทางไปยังที่ใดก็ตาม จงเก็บก้อนกรวดที่เจ้าได้พบในระหว่างทาง ใส่ย่ามของเจ้าเอาไว้ ตกกลางคืนเมื่อใด พวกเจ้าจะทั้งดีใจและเสียใจ"

สิ้นเสียงนั้น ทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความผิดหวัง ไยเทพเจ้าจึงบอกให้เก็บก้อนกรวดที่ไร้ค่าเช่นนั้น แทนที่จะประทานทรัพย์สมบัติ หรือบอกขุมทรัพย์อันล้ำค่าให้ พวกเขารู้สึกไม่พอใจ ต่างเข้านอนด้วยความผิดหวัง

รุ่งขึ้น พวกเขาพากันออกเดินทางไปเหมือนเช่นเคย ทุกคนได้พบเห็นก้อนกรวดมากมาย เกลื่อนกลาดทุกหนแห่งที่ย่างเท้าไป พวกเขาจึงหยิบติดมือมาอย่างเสียมิได้ เพียงคนละสองสามก้อนเท่านั้น ทั้งยังเก็บไปก็บ่นไป

ครั้นถึงยามพระ อาทิตย์ตกดิน พวกเขาพากันหยุดพักแรม ปลดย่ามที่สะพายออก ตรวจดูของในย่ามก็พบว่า! ก้อนกรวดที่เก็บมานั้นได้กลายเป็นเพชร ล้วนแล้วแต่งดงามเป็นประกาย ทุกคนต่างดีอกดีใจ พากันชื่นชมโชคลาภของตนกันยกใหญ่

แต่แล้ว! เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่า ต่างเก็บก้อนกรวดมาน้อยเหลือเกิน พวกเขาก็พากันรำพึงรำพัน ด้วยความเสียดาย...เสียใจ

ง่าย นิดเดียว...ที่จะเก็บก้อนกรวดแต่ละก้อน แต่ชนเผ่าเร่ร่อน ผู้รอนแรมแสวงหาโชคไปทั่วหล้า หาได้ใส่ใจในก้อนกรวดที่ดูไร้ค่าเหล่านั้น สุดท้าย...จึงได้เสียใจ

เราทุกคนเกิดมา ต่างขวนขวายแสวงหาสิ่งดี ๆ ให้กับชีวิต เราอาจหวังความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ปรารถนาจะไปให้ถึงดวงดาว จนบางทีเราก็ลืมไปว่า ความสุขที่เราปรารถนานั้น หาได้จากสิ่งง่าย ๆ ใกล้ตัว... อาจอยู่ในรอยยิ้ม... ในคำทักทาย ในการกระทำอันเรียบง่ายของชีวิตประจำวัน อาจอยู่ในเรื่องเก่า ๆ ที่เราได้ยินได้ฟังมาครั้งแล้วครั้งเล่า เช่นการทำบุญ ให้ทาน การรักษาศีล จนกลายเป็นเรื่องที่เราคุ้นชิน แต่มิได้ตระหนักถึงคุณค่า เสมือนก้อนกรวดที่เราเห็นอยู่ดาษดื่น ชินตา

แต่ทว่า... เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ดูเหมือนทำไปก็ไม่ได้อะไรเหล่านี้ แท้จริง คือ อริยทรัพย์อันล้ำค่า ที่จะส่องประกายแจ่มชัด ยามเมื่อรัตติกาลแห่งชีวิตมาเยือน

เมื่อถึงยามนั้น ขอให้เราเป็นผู้หนึ่งที่ ดีใจ และดีใจ "ดีใจ ที่เราได้เก็บก้อนกรวดมา และดีใจ ที่เราเก็บมาไม่น้อยเลย"

ทุก ครั้งที่เราทำความดี แม้สิ่งที่ทำจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่ก็เป็นประวัติชีวิตอันดีงาม ที่ควรจดจำและบันทึกไว้ ด้วยภาพ... ด้วยถ้อยคำ... ด้วยความรู้สึก... และนึกถึงบ่อย ๆ

นึงถึงครั้งใด... ก็ปลาบปลื้มเป็นสุขใจ กำลังใจจะเบ่งบาน เกิดแรงบันดาลใจที่จะทำความดีอย่างต่อเนื่องไป... ไม่สิ้นสุด

12-ลูกหม่อนที่น่ากิน-2554

 ลูกหม่อนคือผลของต้นหม่อน ที่เอาใบไปเลี้ยงตัวหนอนไหมนั่นเอง

ซึ่งต้นหม่อนที่เขาใช้เพื่อเลี้ยงหนอนไหม จะมีใบดกมากเป็นพิเศษ

 แต่พันธุ์ที่มีผลมากจะมีใบไม่ค่อยใหญ่ แต่มีผลดกมาก

 ลูกหม่อนที่ยังไม่แก่เต็มที่จะมีสีขาว สีเขียว สีแดง ซึ่งมีรสเปรี้ยว

 แต่ถ้าเป็นลูกที่แก่งอมแล้วจะมีสีออกดำ อย่างนี้แหละ

    เห็นแบบนี้เก็บกินได้เลย หวาน อร่อย


 ลูกหม่อนที่เก็บจากต้นมาแล้ว จะไม่สามารถเก็บไว้ข้างนอกได้นาน เนื่องจากจะเละเน่าเสียได้ง่าย ควรล้างและแช่แข็ง หรือจะทำเป็นแยมเก็บไว้ก็ได้

 แต่วิธีที่ดีที่สุดคือการกินสด จะได้วิตามินและสารอาหารที่ดีที่สุด

 ดูความดกของต้นแล้วอยากปลูกไหมคะ
 ต้นหม่อนสามารถขยายพันธุ์ได้ง่ายๆ ด้วยการตัดกิ่งมาชำในถุงให้ออกรากแล้วนำไปปลูกได้เลย

 ต้นหม่อนสามารถทนแล้งได้ดีมาก และปลูกได้ทุกภาคของประเทศไทย

       นอกจากนี้ใบออ่นก็สามารถนำมาทานสดได้

 หรือจะนำใบออ่นมาทำอาหารก็ได้ ใบหม่อนช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง

         เป็นผลไม้สารพัดประโยชน์จริงๆค่ะ

ผลไม้ที่มีสีเข้มแบบนี้ จะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงค่ะ

11-ภาพสตอเบอรี่สวยๆ-2554







10-ภาพสวยๆสบายตา2 -2554

ในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน


ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน

              แล้วจะไปหวังอะไรอีกเล่า


                หวังมากก็ผิดหวังมาก

                                 หวังน้อยก็ผิดหวังน้อย

                    ไม่หวังก็ไม่ผิดหวัง

                 ชีวิตก็เป็นอย่างนี้

                         ไม่มีอะไรแน่นอนสักอย่าง











9-ภาพสวยๆสบายตา1-2554

 สีเขียวๆของใบไม้ ดอกไม้ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายและสดชื่น