วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2554
13-บันทึกกอ้นกรวด-2554
ของถูกก็ดีได้ ... ของที่หาง่ายก็ใช่จะไร้ค่า ... ขุมทรัพย์ไม่จำเป็นต้องอยู่สุดขอบฟ้า ... แต่อาจดารดาษใกล้ ๆ ตัวเรา
ใน สมัยโบราณ มีชนเผ่าหนึ่งเที่ยวเร่ร่อนไปในที่ต่างๆ ค่ำไหนนอนนั่น โดยจะปลูกกระโจมอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ทุกคืนก่อนนอน พวกเขาจะสวดมนต์อ้อนวอน ขอโชคลาภจากเทพเจ้าอยู่เสมอ
คืนหนึ่ง! ขณะที่พวกเขากำลังบูชาเทพเจ้าอยู่นั้น ได้เกิดลมพัดอื้ออึง ฟ้าแลบแปลบปลาบ พวกเขาต่างคิดว่า เหตุอัศจรรย์กำลังจะบังเกิดขึ้น ทันใดนั้นเอง! พวกเขาก็ได้ยินเสียงดังก้องมากจากท้องฟ้าเบื้องบนว่า...
"พวกเจ้า ทั้งหลายจงฟังข้า ในวันพรุ่งนี้ ไม่ว่าพวกเจ้าจะเดินทางไปยังที่ใดก็ตาม จงเก็บก้อนกรวดที่เจ้าได้พบในระหว่างทาง ใส่ย่ามของเจ้าเอาไว้ ตกกลางคืนเมื่อใด พวกเจ้าจะทั้งดีใจและเสียใจ"
สิ้นเสียงนั้น ทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความผิดหวัง ไยเทพเจ้าจึงบอกให้เก็บก้อนกรวดที่ไร้ค่าเช่นนั้น แทนที่จะประทานทรัพย์สมบัติ หรือบอกขุมทรัพย์อันล้ำค่าให้ พวกเขารู้สึกไม่พอใจ ต่างเข้านอนด้วยความผิดหวัง
รุ่งขึ้น พวกเขาพากันออกเดินทางไปเหมือนเช่นเคย ทุกคนได้พบเห็นก้อนกรวดมากมาย เกลื่อนกลาดทุกหนแห่งที่ย่างเท้าไป พวกเขาจึงหยิบติดมือมาอย่างเสียมิได้ เพียงคนละสองสามก้อนเท่านั้น ทั้งยังเก็บไปก็บ่นไป
ครั้นถึงยามพระ อาทิตย์ตกดิน พวกเขาพากันหยุดพักแรม ปลดย่ามที่สะพายออก ตรวจดูของในย่ามก็พบว่า! ก้อนกรวดที่เก็บมานั้นได้กลายเป็นเพชร ล้วนแล้วแต่งดงามเป็นประกาย ทุกคนต่างดีอกดีใจ พากันชื่นชมโชคลาภของตนกันยกใหญ่
แต่แล้ว! เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่า ต่างเก็บก้อนกรวดมาน้อยเหลือเกิน พวกเขาก็พากันรำพึงรำพัน ด้วยความเสียดาย...เสียใจ
ง่าย นิดเดียว...ที่จะเก็บก้อนกรวดแต่ละก้อน แต่ชนเผ่าเร่ร่อน ผู้รอนแรมแสวงหาโชคไปทั่วหล้า หาได้ใส่ใจในก้อนกรวดที่ดูไร้ค่าเหล่านั้น สุดท้าย...จึงได้เสียใจ
เราทุกคนเกิดมา ต่างขวนขวายแสวงหาสิ่งดี ๆ ให้กับชีวิต เราอาจหวังความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ปรารถนาจะไปให้ถึงดวงดาว จนบางทีเราก็ลืมไปว่า ความสุขที่เราปรารถนานั้น หาได้จากสิ่งง่าย ๆ ใกล้ตัว... อาจอยู่ในรอยยิ้ม... ในคำทักทาย ในการกระทำอันเรียบง่ายของชีวิตประจำวัน อาจอยู่ในเรื่องเก่า ๆ ที่เราได้ยินได้ฟังมาครั้งแล้วครั้งเล่า เช่นการทำบุญ ให้ทาน การรักษาศีล จนกลายเป็นเรื่องที่เราคุ้นชิน แต่มิได้ตระหนักถึงคุณค่า เสมือนก้อนกรวดที่เราเห็นอยู่ดาษดื่น ชินตา
แต่ทว่า... เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ดูเหมือนทำไปก็ไม่ได้อะไรเหล่านี้ แท้จริง คือ อริยทรัพย์อันล้ำค่า ที่จะส่องประกายแจ่มชัด ยามเมื่อรัตติกาลแห่งชีวิตมาเยือน
เมื่อถึงยามนั้น ขอให้เราเป็นผู้หนึ่งที่ ดีใจ และดีใจ "ดีใจ ที่เราได้เก็บก้อนกรวดมา และดีใจ ที่เราเก็บมาไม่น้อยเลย"
ทุก ครั้งที่เราทำความดี แม้สิ่งที่ทำจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่ก็เป็นประวัติชีวิตอันดีงาม ที่ควรจดจำและบันทึกไว้ ด้วยภาพ... ด้วยถ้อยคำ... ด้วยความรู้สึก... และนึกถึงบ่อย ๆ
นึงถึงครั้งใด... ก็ปลาบปลื้มเป็นสุขใจ กำลังใจจะเบ่งบาน เกิดแรงบันดาลใจที่จะทำความดีอย่างต่อเนื่องไป... ไม่สิ้นสุด
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น